เกิดดราม่าอย่างรุนแรงหลังจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ในกลุ่ม f ที่มีทีมแชมป์เก่าอย่างอินทรีเหล็ก เยอรมัน ที่ถูกจัดให้เป็นทีมเต็งอันดับ 2 ที่จะคว้าแชมป์ได้ในปีนี้ แต่ผลงานของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่มกลับไม่ค่อยจะดีสมดีกรีแชมป์เก่า หลังจากที่ลงเตะไปสองนัดมีแค่ 3 แต้มที่ได้จากการเฉือนเอาชนะ สวีเดนมาได้ในนัดที่สอง หลังจากนัดแรกแพ้ให้กับเม็กซิโก
ดังนั้นในนัดสุดท้ายพวกเขาจะต้องเจอทีมจากทวีปเอเชียอีกหนึ่งทีมอย่างเกาหลีใต้ ซึ่งใครๆ ก็มองว่าพวกเขาน่าจะเก็บ 3 แต้มได้ไม่ยาก แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาที่พยายามบุกเท่าไร ก็ไม่สามารถทำประตูได้ มีโอกาสที่จะได้ประตูหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เด็ดขาดเองยิงพลาดเองซะเยอะ และเป็น โช ฮยอน-อู นายทวารของเกาหลีใต้ที่ไม่รู้อะไรเข้าสิงที่สามารถช่วยทีมเซฟลูกยากๆ ได้ตลอดทั้งเกม
จนมาถึงท้ายเกมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกิดปรากฏการณ์ช็อกแฟนบอลทั่วโลกจากการที่เกาหลีใต้ได้ประตูขึ้นนำแชมป์เก่าจากลูกเตะมุมของ เฮือง-มิน ซอน เปิดเข้ามาเกิดจังหวะขลุกขลิกหน้าประตู บอลไปเข้าเท้า คิม ยอง-กวอน ที่ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ ที่เสาสองซัดเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินข้างสนามยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ดู VAR กลับส่งสัญญาญให้ผู้ตัดสินในสนามกลับมาดูและกลายเป็นว่าจังหวะที่ขลุกขลิกเป็น โทนี่ โครส ที่จิ้มบอลไปให้ ยอง-กวอน คิม เองทำใ้หไม่เป็นลูกล้ำหน้า ผู้ตัดสินวิ่งกลับมาเป่าให้เป็นประตูของเกาหลีใต้ทันที
ต่อมาแชมป์เก่าพยายามบุกหนัก นอยเออร์ เติมขึ้นมากลางสนาม แต่กลับเป็นเกาหลีใต้ที่สาดบอลยาวให้ซอนสปีดวิ่งไปแบบอลเขาประตูโล่งๆ ที่ไม่มีใครเฝ้า 2-0 ลกาแชมป์เก่าตกรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยกัน และเป็นครั้งแรกของเยอรมันที่ตกรอบในรอบแบ่งกลุ่ม แถมตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่มอีกด้วยช็อกแฟนบอลไปทั่วโลกเลยทีเดียว โดยผลอีกคู่เป็นสวีเดนที่เอาชนะเม็กซิโกไปได้ 3-0 กอดคอกันเข้ารอบตัดเชือกไป