Home ข่าวบอลโลก โหดเกิ๊น ! “เจ้าภาพบอลโลกรัสเซีย” ถล่ม! “ซาอุ”ยับ 5-0

โหดเกิ๊น ! “เจ้าภาพบอลโลกรัสเซีย” ถล่ม! “ซาอุ”ยับ 5-0

0
1393
รัสเซีย Vs ซาอุ บอลโลก 2018

ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018 ได้เริ่มขึ้นแล้วที่ รัสเซีย โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการที่สนามลุซนิกี้สเตเดี้ยม แฟนบอลเข้ามากันเต็มสนาม โดยประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ได้ขึ้นกล่าวเปิดพิธีก่อนจะเริ่มเตะนัดแรก โดยนัดแรกจะเป็น เจ้าภาพรัสเซีย ลงเตะกับทีมจากเอเชียอย่าง ซาอุดิอาระเบีย บรรยากาศในสนามกึกก้องไปด้วยเสียงแฟนบอลเจ้าภาพ ที่โบกธงชาติสะบัดไปมาเต็มสนามลุซนิกี้สเตเดี้ยม

โดยรูปเกมจะเป็นทางเจ้าภาพที่บุกใส่อย่างหนัก จนในนาทีที่ 12 เสียงเฮลั่นในสนามเมื่อเจ้าภาพได้ประตูขึ้นนำ โดย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เปิดบอลจากด้านข้างไปที่เสาสองให้ ยูริ กาซินสกี้ โขกเน้นๆ เรียบร้อยโรงเรียนรัสเซีย ขึ้นนำทันที 1-0 หลังจากได้ประตูขึ้นนำทางซาอุก็พยายามทำเกมรุกขึ้นมาบ้างหวังจะเอาประตูคืน แต่การต่อบอลยังไม่ค่อยปะติดปะต่อทำให้บอลยังไม่ไปถึงมือผู้รักษาประตูเจ้าภาพสักที ยืนหาวกันเลยทีเดียว

แต่ในนีที่ 20 กว่าในจังหวะสวนกลับของทางเจ้าภาพรัสเซียเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อนักเตะตัวหลักของพวกเขา อลัน ซาโกเยฟ ล้มตัวลงกับพื้นจากอาการเอ็นกระตุกทำให้ต้องเปลี่ยนตัวเอา เดนิส เชอรีเชฟ ลงมาแทน และอาจจะเป็นการปิดฉากการรับใช้ชาติของ อลัน ซาโกเยฟ เลยก็เป็นได้ จากนั้นเกมดำเนินต่อมาถึงช่วงท้ายครึ่งแรก เมื่อได้รับโอกาสลงสนามมาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เชอรีเชฟ ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมายกบอลหนีตัวประกบก่อนซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายส่งให้เจ้าภาพรัสเซียขึ้นนำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลังก็ยังนับได้ว่าเป็นเกมของเจ้าภาพอย่างแท้ทรู บุกใส่อย่างต่อเนื่องจนนาทีที่ 71 โกโลวิน เปิดบอลให้ ซียูบา ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงลมาได้แค่ 89 วินาทีโขกเน้นๆ และเป้นการสัมผัสบอลครั้งแรกของเขาส่งให้ทีมได้ประตูขึ้นนำ 3-0 ท้ายเกมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าภาพยังบุกต่อบอมเข้าไปให้ ซียูบา โหม่งเช็ดเบาๆ บอลมาเข้าทาง เชอรีเชฟ ซัดด้วยซ้ายปั่นไซต์ก้อยบอลพุ่งเข้าประตูเสียบตาข่ายอย่างสวยงามเจ้าภาพรัสเซียจัดหนัก 4-0 สุดท้ายในช่วงท้ายเกม มีทีท่าว่าจะจบเกมแต่เจ้าภาพรัสเซียได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะหวังผลได้

ใครจะไปคิดว่า โกโลวิน คนดีคนเดิมรับหน้าที่ปั่นฟรีคิกโค้งเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม 5-0 จบเกมทันที เป็นการเตะเปิดทัวร์นาเม้นที่เรียกได้ว่ายิงไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว ที่มาของคำว่า “โหดสัสรัสเซีย” จริงๆ โดยเฉพาะ โกโลวิน ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น และได้ตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทช์ไป หวังว่านัดต่อๆ ไปเจ้าภาพรัสเซียจะรักษาฟอร์มโหดนี้จนทะลุเข้ารอบตัดเชือกไปได้

Facebook Comments Box